2024-10-23 20:31:40
ใบยาตีน
รู้จักไหม “ใบยาตีน”
สำหรับประเทศแรกที่เริ่มปลูกยาสูบในทวีปเอเชีย คือ ประเทศฟิลิปปินส์ จากนั้นจึงแพร่หลายไปยังประเทศอินเดีย ประเทศจีน
และประเทศอินโดนีเซีย ตามลำดับ ส่วนคนไทยแต่เดิมเรียกยาสูบเป็นคำกลางๆ ว่า “ยา” บอกลักษณะของยาสูบแต่ละประเภท
เช่น ยาเส้น ยาฉุน ยาจืด ยามวน เป็นต้น ซึ่งในประเทศไทยแม้จะไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าคนไทยเริ่มการสูบยาเมื่อใด
แต่จากหลักฐานที่พบและรวบรวมได้ เช่น กล้องยาสูบในสมัยสุโขทัยก็อาจทำให้เชื่อได้ว่าคนไทยมีวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับยาสูบมาประมาณ 700 ปี
คนไทยสูบยากันทั่วไป โดยชาวเปอร์เซียเป็นผู้นำเข้ามาและเป็นการสูบยาในลักษณะหั่นใบยา ที่มวนด้วยใบตองหรือใบบัว และมีการสูบจากกล้องหรือเคี้ยวเส้นยาสูบ บางทีก็ป่นเป็นผงสูดเข้าจมูกแบบยานัตถุ์
ธรรมชาติของยาสูบแตกต่างจากพืชอื่นใบของยาสูบมีสารประกอบไนโตรเจนจนหมู่หนึ่งที่เรียกว่า “แอลคาลอยด์” ซึ่งมีนิโคตินเป็นส่วนใหญ่นิโคตินเป็นองค์ประกอบที่ทำให้เกิดลักษณะเฉพาะตัวของยาสูบ
ต้นยาสูบจะผลิตสารนิโคตินที่รากแล้วส่งไปเก็บไว้ที่ใบดังนั้นถ้าต้นยาสูบมีรากมากก็มีแนวโน้มที่จะผลิตสารนิโคตินได้มาก
ใบยาเหล่านี้เมื่อเกิดการเผาไหม้ จะทำให้เกิดสารประกอบต่างๆ อีกจำนวนมากทำให้เกิดกลิ่นสีและรสต่างๆ ความหอม และความฉุน ซึ่งแตกต่างกันไปตามประเภทของยาสูบ ใบยาสูบแต่ละประเภทจะมีปริมาณสารประกอบเคมีทำให้เป็นลักษณะเด่นแตกต่างกัน
กล่าวโดยสรุป ยาสูบ 1 ต้น จะมีใบยาสูบจากใบยาตีนชั้นล่างถึงใบยาบนชั้นใบยายอด จำนวน 18-21 ใบ จะเหมาะสมที่สุดคือ ใบยาที่ผ่านการตอนยอด
ขนาดชุดใบยายอดจะมีขนาดความหนาและความยาวเท่าๆ กับชุดใบยากลาง ซึ่งเกษตรกรชาวไร่จะต้องเข้าใจในการเก็บเกี่ยวที่ถูกต้อง ต้องเก็บเกี่ยวให้ได้ความสุกแก่พอดี ถึงจะได้คุณภาพใบยาแห้งที่บ่มออกมาดี มีคุณภาพดีทั้งทางเคมีและทางฟิสิกส์ถ้าใบยาแก่แต่ไม่สุกก็จะได้ใบยาแห้งที่บ่มออกมาไม่ดีที่สุด
ต้นยาสูบที่จะนำผลผลิตใบยาสดมาขายเป็นใบยาสด จะมีลักษณะการสังเกตและเก็บเกี่ยวดังนี้
1. ชุดใบยายอด ซึ่งเก็บครั้งที่ 1 ของชุดยายอด ก่อนครั้งสุดท้ายชุดใบยายอด จะมี 6 ใบและเป็น 6 ใบสุดท้ายของต้น ซึ่งชุดใบยายอดนี้จะมี 2 ชั้น ๆ ละ 3 ใบ รวมเป็น 6 ใบ (เก็บเกี่ยวได้ 2 ครั้ง ๆ ละ 3 ใบ)
2. ชุดใบยากลาง มี 3 ชั้น ๆ ละ 3 ใบรวมเป็น 9 ใบ (เก็บเกี่ยวได้ 3 ครั้ง ๆ ละ 3 ใบ)
3. ชุดใบยาตีน มี 1 ชั้น ๆ ละ 3 ใบ (เก็บเกี่ยวได้ 1 ครั้ง ๆ ละ 3 ใบ) ยังมีชั้นใบยาตีนทรายอีก 1 ชั้น ๆ ละ 2-3 ใบ ซึ่งจะนับรวมหรือไม่นับรวมก็ได้