0

บุหรี่กลีบบัว

2024-10-11 15:53:14

บุหรี่กลีบบัว


พระโอสถมวนหรือบุหรี่สำหรับเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ดอกบัว ถือเป็นไม้ที่มีประโยชน์และคุณค่าตั้งแต่รากถึงดอก เพราะสามารถนำมาทำอาหาร ขนม ทำเป็นน้ำชา บูชาพระ 

หรือแม้กระทั่งสกัดเป็นยาเพื่อบรรเทาอาการต่างๆ และบำรุงร่างกายได้ ส่วนกลีบบัวนอกจากความสวยงามแล้วในสมัยโบราณยังเคยมีการนำมาทำเป็นยาสูบโดยใช้เกสรบัวหลวงตากแห้ง รวมถึงนำดอกไม้และสมุนไพรอื่นๆ มาเป็นส่วนประกอบ


ส่วนประกอบของบุหรี่คือยาเส้น ได้มาจากการคัดเลือกใบยาสูบ ที่มีความแก่ ระดับปานกลาง มี 3 ระดับ คือ


1. ยาฉุน คือ ใบยาสูบ ที่แก่จัด นับจาก ยอดใบ ลงมา 9-10 ใบ  มีรสชาติฉุนมาก ขื่นมากเวลาสูบ


2. ยากลาง คือใบยาที่ นับจากยอดลงมา 4 ใบ  มีความเข้มของยา ปานกลาง


3. ยาจืด คือ ใบยาที่อ่อน นับจากยอด 2 ใบมีความอ่อนมาก ในระดับความขื่น 


ส่วนใหญ่บุหรี่กลีบบัวจะเลือกยากลางลงมาเป็นส่วนผสม แต่ครั้งโบราณแหล่งยาเส้นที่ดีที่สุดของไทย อยู่ที่เมืองเพชรบูรณ์ หรือเลย

โดยพืชที่นำมาใช้ทำใบยาสูบได้แก่


1.  ดอกปีบ ตากแห้งทั้งดอกมีสรรพคุณรักษา โรคทางเดินหายใจ


2.  พิมเสนเกล็ดทอง ( ปัจจุบันไม่มีผลิตแล้ว )


3. เกสรบัวหลวงตากแห้ง


4. ใบกระวานแห้ง หรือ เมล็ด คั่วร้อน


5. อบเชย  บางสูตรอาจใส่ ชะเอม  เพื่อความชุ่มคอ แต่เมื่อมีการเผาไหม้ เมื่อมีการจุดยาเส้นแล้วสิ่งที่จะทำให้ชุ่มคอ คือ พิมเสนเพราะเป็นสารระเหย สิ่งเหล่านี้คือตัวหลักในยามวน ส่วนบางสูตรอาจจะซอยผิวส้มซ่า หรือใส่กานพลูลงไป


การมวนใบยาจะต้องมีใบตองอ่อนที่นาบกับหินอ่อนร้อนๆ จนแห้งมามวนเป็นใบยาสูบ แล้วนำกลีบดอกบัวหลวง ที่บานเต็มที่ใกล้โรยมานาบเป็นแผ่นรองนอกความยาวราวๆ 4.5 นิ้ว 

โดยประมาณ ติดด้วยยางมะตูมขนาดราวๆ ลำเทียนฝั้นปลายนิ้วก้อยนางก็จะได้ใบยากลีบบัวสวยงามออกมา 

แต่ปัจจุบันภูมิปัญญาไทยเหล่านี้ไม่มีการสืบสาน ทำให้ถูกกลืนกลบไปจนหมดสิ้น 

ติดต่อเรา / Contact us


Line @BURINOK888

Tel. 098-754-0874
(เปิดทุกวัน 09.00 - 21.00)


Email: burinok888@gmail.com